เข้าใจเลเวอเรจกับ Exness สำหรับเทรดเดอร์ไทย

เราจะช่วยให้คุณรู้จักเลเวอเรจอย่างเข้าใจง่าย เพื่อเทรดได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยบนแพลตฟอร์มของเรา

เลเวอเรจคืออะไร และทำไมมันถึงสำคัญสำหรับคุณ

เลเวอเรจมันไม่ใช่เงินวิเศษที่ทำให้คุณรวยได้ทันทีหรอกนะ แต่มันคือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณควบคุมเงินทุนในตลาดได้มากขึ้น ด้วยเลเวอเรจ 1:100 คุณสามารถเทรดมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ได้ แม้จะมีเงินทุนแค่ 1,000 ดอลลาร์เท่านั้น แต่ต้องระวังเพราะเลเวอเรจก็ขยายทั้งกำไรและขาดทุนเหมือนกัน

บนแพลตฟอร์มของเรา เราให้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:2000 สำหรับบางสินทรัพย์ แต่สำหรับคนไทย ตัวเลขสูงสุดที่ใช้ได้จะขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและสินทรัพย์ที่เทรดด้วย

ประเภทบัญชี เลเวอเรจสูงสุด
Standard 1:2000
Pro 1:2000
Raw Spread 1:2000

แต่จากประสบการณ์ของเรากับผู้ใช้งาน จริงๆ แล้วการใช้เลเวอเรจสูงสุดนั้นไม่จำเป็นเสมอไป หลายคนที่เทรดเก่งๆ จะเลือกใช้เลเวอเรจไม่เกิน 1:100 เพื่อควบคุมความเสี่ยงได้ดีขึ้น

เริ่มตั้งค่าเลเวอเรจในบัญชี Exness ของคุณ

ตอนสร้างบัญชีใหม่ใน Personal Area ของเรา คุณจะเห็นตัวเลือกตั้งค่าเลเวอเรจเลย ซึ่งสำหรับผู้ใช้ในไทย สิ่งที่คุณต้องทำคือเลือกประเทศไทยเป็นประเทศที่พำนัก เพื่อให้ระบบแสดงเลเวอเรจที่เหมาะสมกับคุณ

หลังจากเข้าสู่ระบบ Personal Area แล้ว:

  • ไปที่ “บัญชีของฉัน”
  • คลิก “เปิดบัญชีใหม่”
  • เลือกประเภทบัญชีและดูเมนูเลเวอเรจ
  • เลือกเลเวอเรจที่คุณต้องการภายในขอบเขตที่กำหนด

ถ้าคุณอยากเปลี่ยนเลเวอเรจหลังจากเปิดบัญชีแล้ว ก็ทำได้ง่ายๆ เลย:

  1. ไปที่ “บัญชีของฉัน”
  2. เลือกบัญชีที่ต้องการแก้ไข
  3. คลิกไอคอนตั้งค่า (รูปฟันเฟือง)
  4. เลือก “เปลี่ยนเลเวอเรจ”
  5. เลือกอัตราใหม่และยืนยัน

ระบบจะปรับเลเวอเรจให้ทันที อย่างไรก็ตาม ถ้ามีสถานะเปิดอยู่ คุณอาจต้องรอจนปิดสถานะก่อน

เลเวอเรจแต่ละประเภทที่คุณควรรู้

เลเวอเรจไม่ได้เท่ากันทุกสินทรัพย์นะ มันขึ้นกับความเสี่ยงและลักษณะของตลาด มาดูกันว่าแต่ละสินทรัพย์มีเลเวอเรจสูงสุดอย่างไรบ้าง:

ประเภทสินทรัพย์ เลเวอเรจสูงสุด การใช้งานทั่วไป
ฟอเร็กซ์คู่หลัก 1:2000 1:50 – 1:200
ฟอเร็กซ์คู่รองและคู่แปลก 1:400 1:30 – 1:100
CFD หุ้น 1:50 1:5 – 1:20
สินค้าโภคภัณฑ์ 1:500 1:20 – 1:100
ดัชนี 1:500 1:50 – 1:200
คริปโตเคอร์เรนซี 1:20 1:2 – 1:10

จากข้อมูลนี้ คุณจะเห็นเลยว่าเลเวอเรจสูงจะอยู่กับฟอเร็กซ์คู่หลักเป็นส่วนใหญ่ ส่วนคริปโตนั้นจะถูกจำกัดไว้ต่ำสุดเพราะความผันผวนสูงมาก

ทำความเข้าใจเรื่องมาร์จิ้นและมาร์จิ้นฟรี แบบที่ใช้งานได้จริง

มาร์จิ้นคือเงินที่ถูกล็อคไว้เพื่อเปิดสถานะเทรด ไม่ใช่เงินที่หายไป แต่มันจะถูกกันไว้จนกว่าคุณจะปิดสถานะนั้น

สูตรง่ายๆ สำหรับคำนวณมาร์จิ้นก็คือ:

  • มาร์จิ้นที่ใช้ (Used Margin) = ขนาดสถานะ ÷ เลเวอเรจ
  • มาร์จิ้นฟรี (Free Margin) = ยอดเงินในบัญชี (Equity) – มาร์จิ้นที่ใช้

เมื่อมาร์จิ้นฟรีใกล้จะหมด หรือระดับมาร์จิ้นลดต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คุณจะได้รับแจ้งเตือนแล้วก็อาจถูกปิดสถานะอัตโนมัติ

มาดูตารางที่ช่วยให้เห็นภาพการคำนวณมาร์จิ้นชัดขึ้น:

เลเวอเรจ มูลค่าตำแหน่ง มาร์จิ้นที่ต้องใช้ เปอร์เซ็นต์ของตำแหน่ง
1:10 $10,000 $1,000 10%
1:50 $10,000 $200 2%
1:100 $10,000 $100 1%
1:500 $10,000 $20 0.2%
1:1000 $10,000 $10 0.1%

บริหารความเสี่ยงกับเลเวอเรจอย่างไรให้ปลอดภัย

จากที่เราเห็นมา คนที่ประสบความสำเร็จมักจะมีวินัยเรื่องขนาดของตำแหน่งและการจัดการความเสี่ยงก่อนเสมอ นี่คือข้อปฏิบัติที่ช่วยได้จริง:

กฎการตั้งขนาดตำแหน่ง

อย่าเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนในบัญชีต่อหนึ่งการเทรด เช่น คุณมี 100,000 บาท ก็ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1,000-2,000 บาทต่อครั้ง

กฎ 5% ของมาร์จิ้นรวม

อย่าให้มาร์จิ้นที่ใช้รวมกันเกิน 5% ของยอดเงินในบัญชี เช่น มี 100,000 บาท จะใช้มาร์จิ้นไม่เกิน 5,000 บาท เพื่อให้ยังสามารถรับมือกับความผันผวนได้

เลเวอเรจไม่ได้กำหนดความเสี่ยงโดยตรง

เลเวอเรจแค่ลดมาร์จิ้นที่ต้องใช้เท่านั้น ความเสี่ยงจริงๆ มาจากขนาดล็อตและจุดตัดขาดทุนของคุณ

เลเวอเรจกับเครื่องมือเทรดบนแพลตฟอร์มของเรา

บน MT4 และ MT5 ของเรา คุณจะเห็นข้อมูลมาร์จิ้นแบบเรียลไทม์ในแท็บ “เทรด” ซึ่งช่วยให้คุณรู้สถานะบัญชีได้ตลอดเวลา

  • ยอดเงินในบัญชี (Balance)
  • มูลค่าปัจจุบัน (Equity)
  • มาร์จิ้นที่ถูกใช้ (Margin)
  • มาร์จิ้นที่ว่าง (Free Margin)
  • ระดับมาร์จิ้น (Margin Level) เป็นเปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ บัญชีบางประเภทของเราจะปรับเลเวอเรจอัตโนมัติตามขนาดบัญชี เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นตามกฎเกณฑ์ในไทย

แอปมือถือของเราก็สะดวกมากสำหรับตรวจเช็คและเปลี่ยนแปลงเลเวอเรจได้ง่าย ไม่ต้องเข้าเว็บซับซ้อน

ข้อจำกัดและกฎของเลเวอเรจในประเทศไทย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับเลเวอเรจ เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุนรายย่อยในไทย

ประเภทลูกค้าและผลกระทบ

ลูกค้ารายย่อยมักจะมีเลเวอเรจจำกัดและการคุ้มครองสูงกว่า ส่วนลูกค้ารายใหญ่หรือมืออาชีพจะมีเลเวอเรจสูงกว่า แต่ต้องผ่านการรับรองตามเกณฑ์

ประเภทลูกค้า เลเวอเรจ ข้อกำหนด
รายย่อย จำกัดตามกฎหมาย ได้รับคำเตือนและข้อจำกัด
มืออาชีพ สูงกว่า ต้องมีบัญชีใหญ่และประสบการณ์

ตัวอย่างการคำนวณเลเวอเรจและมาร์จิ้นสำหรับเทรดเดอร์ไทย

ลองมาดูตัวอย่างสถานะเทรดที่ใช้เลเวอเรจบนแพลตฟอร์มของเรากัน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น

ตัวอย่างที่ 1: เทรดคู่เงิน EUR/USD

  • ยอดเงินในบัญชี: 5,000 ดอลลาร์
  • เลเวอเรจ: 1:100
  • ขนาดสถานะ: 1 standard lot (100,000 ยูโร)
  • มาร์จิ้นที่ต้องใช้: 1,000 ดอลลาร์
  • มาร์จิ้นฟรีหลังเปิดสถานะ: 4,000 ดอลลาร์

ถ้าค่าเงินเคลื่อนไหว 100 pips ตามที่คาด คุณจะได้กำไร 1,000 ดอลลาร์ (20% ของเงินในบัญชี) และถ้าขาดทุนก็เท่ากัน

ตัวอย่างที่ 2: เทรดทองคำ (Gold) CFD

  • ยอดเงินในบัญชี: 10,000 ดอลลาร์
  • เลเวอเรจ: 1:200
  • ขนาดสถานะ: 10 ออนซ์
  • ราคาทองคำ: 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  • มูลค่าตำแหน่ง: 20,000 ดอลลาร์
  • มาร์จิ้นที่ต้องใช้: 100 ดอลลาร์
  • มาร์จิ้นฟรี: 9,900 ดอลลาร์

ทองคำเคลื่อนไหว 50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีผลกำไรหรือขาดทุนประมาณ 500 ดอลลาร์

ตัวอย่างที่ 3: เทรดหุ้น CFD

  • ยอดเงินในบัญชี: 3,000 ดอลลาร์
  • เลเวอเรจ: 1:20
  • ราคาหุ้น: 100 ดอลลาร์
  • ขนาดสถานะ: 500 หุ้น
  • มูลค่าตำแหน่ง: 50,000 ดอลลาร์
  • มาร์จิ้นที่ต้องใช้: 2,500 ดอลลาร์
  • มาร์จิ้นฟรี: 500 ดอลลาร์

หากราคาหุ้นตกลง 10% คุณอาจถูกปิดสถานะอัตโนมัติเพราะมาร์จิ้นใกล้หมด

จัดการสถานะที่ใช้เลเวอเรจอย่างไรให้รอดในตลาด

เมื่อใช้เลเวอเรจ สถานะของคุณจะเปลี่ยนแปลงเร็วและแรงกว่าเดิม ดังนั้นการตรวจสอบและบริหารจัดการจึงสำคัญมาก

เช็คมาร์จิ้นทุกวันก่อนเทรด

เราแนะนำให้คุณตรวจสอบมาร์จิ้นก่อนเริ่มเทรดในแต่ละวัน โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดยุโรปและสหรัฐเปิด เพราะความผันผวนจะสูง

ติดตามความสัมพันธ์ของตำแหน่ง

ถ้าคุณเปิดสถานะหลายคู่เงินที่มีความสัมพันธ์กัน การใช้เลเวอเรจมากเกินไปอาจทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เฝ้าระวังค่า Swap และข่าวสาร

เลเวอเรจสูงทำให้ค่า Swap ค่าธรรมเนียมข้ามคืนสูงตามไปด้วย และข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญอาจทำให้ตลาดผันผวนมาก ควรเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ

คำถาม คำตอบ
เลเวอเรจสูงสุดสำหรับเทรดเดอร์ไทยคือเท่าไหร่? สูงสุดถึง 1:2000 สำหรับฟอเร็กซ์คู่หลัก ขึ้นกับบัญชีและสินทรัพย์ที่เทรด
เปลี่ยนเลเวอเรจได้ไหมหลังเปิดบัญชี? ได้เลย ผ่าน Personal Area โดยการเลือกบัญชีและเปลี่ยนเลเวอเรจได้ทันที
เลเวอเรจส่งผลต่อมาร์จิ้นอย่างไร? เลเวอเรจสูงจะลดมาร์จิ้นที่ต้องใช้สำหรับตำแหน่งเดียวกัน
ถ้ามาร์จิ้นต่ำเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น? ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อมาร์จิ้นถึง 60% และปิดสถานะอัตโนมัติที่ 20%
ต้องใช้เลเวอเรจขั้นต่ำไหม? คุณเลือกใช้เลเวอเรจได้ตามที่บัญชีรองรับ แต่ควรเลือกตามแผนบริหารความเสี่ยง
เลเวอเรจต่างกันตามสินทรัพย์หรือเปล่า? ใช่ ฟอเร็กซ์คู่หลักได้เลเวอเรจสูง ส่วนหุ้นและคริปโตจะจำกัดต่ำกว่า

❓ FAQ

เลเวอเรจสูงสุดที่เทรดเดอร์ไทยใช้งานได้คือเท่าไหร่?

เรามีเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:2000 สำหรับฟอเร็กซ์คู่หลัก แต่จะขึ้นกับประเภทบัญชีและสินทรัพย์ที่เลือกเทรดด้วย

สามารถเปลี่ยนเลเวอเรจหลังจากเปิดบัญชีได้หรือไม่?

ได้แน่นอน คุณสามารถเปลี่ยนเลเวอเรจได้ใน Personal Area ของคุณทันทีหลังจากที่ไม่มีสถานะเปิดค้างอยู่

เลเวอเรจส่งผลต่อมาร์จิ้นอย่างไร?

เลเวอเรจที่สูงกว่าจะทำให้ต้องใช้มาร์จิ้นน้อยลงสำหรับตำแหน่งเดียวกัน แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยเช่นกัน

ถ้ามาร์จิ้นต่ำเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น?

เมื่อมาร์จิ้นต่ำถึง 60% ระบบจะเตือนคุณ และถ้าต่ำกว่า 20% จะปิดสถานะอัตโนมัติเพื่อป้องกันการสูญเสียเกินควบคุม

เลเวอเรจขั้นต่ำที่ต้องใช้คือเท่าไหร่?

คุณสามารถใช้เลเวอเรจเท่าที่บัญชีรองรับและตามแผนบริหารความเสี่ยงของคุณเอง ไม่มีขั้นต่ำบังคับ