เลือก Account types กับ Exness ในประเทศไทย เพื่อเทรดอย่างมั่นใจ

ทำความรู้จัก Account types ที่ Exness มีให้เลือก

ถ้าคุณกำลังสนใจเริ่มเทรดกับเราในประเทศไทย คุณมาถูกทางแล้วนะครับ ที่นี่เรามี Account types ที่ตอบโจทย์หลายสไตล์การเทรด ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นจนถึงมือโปร แน่นอนว่าการเลือกบัญชีที่เหมาะสมช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทำกำไรได้ดีกว่าเดิม

เราแบ่งบัญชีหลักๆ ออกเป็น 4 ประเภท คือ Standard, Pro, Zero และ Raw Spread แต่ละแบบมีจุดเด่นแตกต่างกันไป คุณสามารถเปิดบัญชีได้หลายบัญชีภายใต้โปรไฟล์เดียว เพื่อทดลองกลยุทธ์หรือบริหารความเสี่ยงตามต้องการ

เห็นภาพรวมแบบนี้แล้ว เดี๋ยวเราจะเจาะลึกแต่ละประเภทบัญชีให้เข้าใจง่ายขึ้น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นครับ

Standard Account – บัญชีเริ่มต้นที่เหมาะกับคนใหม่

สำหรับใครที่ยังไม่เคยเทรดมาก่อน หรืออยากลองดูตลาดแบบไม่ซับซ้อน Standard account คือจุดเริ่มต้นที่ดีมากครับ ฝากขั้นต่ำแค่ประมาณ 350 บาทเท่านั้น กับสเปรดที่เริ่มต้นที่ 0.3 pips ในคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD

ไม่มีค่าคอมมิชชั่น เพราะทุกค่าใช้จ่ายถูกรวมไว้ในสเปรดเลย ซึ่งช่วยให้คุณรู้ชัดเจนว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ไม่มีค่าแอบแฝง นอกจากนี้ยังใช้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:2000 แต่ก็อย่าลืมระวังเรื่องความเสี่ยงด้วยนะครับ

ข้อดีของ Standard Account

• ฝากเงินขั้นต่ำต่ำ เหมาะกับผู้เริ่มต้น
• ไม่มีค่าคอมมิชชั่น จ่ายครั้งเดียวผ่านสเปรด
• ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

Pro Account – สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการสเปรดแคบลง

ถ้าคุณเทรดบ่อย หรืออยากได้สเปรดที่แคบกว่า Standard Pro account คือคำตอบอย่างหนึ่ง ฝากขั้นต่ำประมาณ 7,000 บาท สเปรดเริ่มต้นแค่ 0.1 pips ในช่วงเวลาที่ตลาดมีสภาพคล่องสูง

ยังไม่มีค่าคอมมิชชั่นเหมือน Standard แต่ได้ราคาที่ดีกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการลดต้นทุนค่าธรรมเนียม และพร้อมฝากเงินเริ่มต้นมากขึ้น

จุดเด่นของ Pro Account

• สเปรดแคบ เหมาะกับการเทรดระยะสั้น
• ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
• ฝากเงินเริ่มต้นที่สูงขึ้น เหมาะกับเทรดเดอร์จริงจัง

Zero Account – เทรดแบบมืออาชีพด้วยค่าคอมมิชชั่นต่ำ

บัญชี Zero เหมาะสำหรับคนที่อยากได้สเปรดแทบจะเป็นศูนย์ จริงๆ แล้วมันเริ่มต้นที่ 0.0 pips เลย แต่คุณจะจ่ายค่าคอมมิชชั่น $3.50 ต่อ lot (เปิดและปิดรวมกัน) ซึ่งมักจะคุ้มกว่าสำหรับคนที่เทรดเยอะหรือใช้กลยุทธ์สเกลปิ้ง

ฝากขั้นต่ำประมาณ 17,500 บาท และสามารถใช้เลเวอเรจสูงสุด 1:2000 เหมือนบัญชีอื่นๆ แต่ต้องเข้าใจเรื่องค่าคอมมิชชั่นก่อนจะเริ่มเทรดนะครับ

ใครควรเลือกบัญชี Zero?

ถ้าคุณเป็นคนที่เทรดหลายรอบในวันเดียว ต้องการสเปรดต่ำสุด และไม่กลัวค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อย บัญชีนี้เหมาะกับคุณแน่นอน

Raw Spread Account – สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการราคาตลาดจริง

บัญชี Raw Spread เหมือนกับ Zero แต่จะให้สเปรดที่เป็นราคาตลาดจริงๆ จากผู้ให้สภาพคล่องโดยตรง (ECN style) สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips เช่นกัน และค่าคอมมิชชั่น $3.50 ต่อ lot

เหมาะกับคนที่ต้องการเข้าถึงสภาพคล่องสูงสุดในช่วงเวลาที่ตลาดคึกคักอย่างช่วงลอนดอน-นิวยอร์ก

ความแตกต่างกับบัญชี Zero

• Raw Spread เป็นราคาตลาดจริงไม่มีการปรับแต่ง
• ช่วงเวลาที่ตลาดเงียบ สเปรดอาจกว้างขึ้นมาก
• เหมาะกับเทรดเดอร์มืออาชีพที่เข้าใจความผันผวน

วิธีเปิดบัญชีและเลือก Account types บนแพลตฟอร์มของเรา

หลังจากเลือกบัญชีที่เหมาะสมกับคุณแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเปิดบัญชีผ่านเว็บไซต์ของเรา ง่ายและรวดเร็วมาก

ขั้นตอนการลงทะเบียน

1. เข้าเว็บ Exness แล้วกด “Register” เลือกประเทศไทยเป็นประเทศที่คุณอยู่นะครับ
2. กรอกอีเมลและตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย
3. กรอกเบอร์โทรศัพท์เพื่อยืนยันตัวตน

การยืนยันเอกสาร

หลังจากสมัคร คุณจะต้องยืนยันตัวตนด้วยเอกสารราชการ เช่น บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง พร้อมหลักฐานที่อยู่ เช่น บิลค่าน้ำค่าไฟ หรือสเตทเมนต์ธนาคาร

ปกติใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง แต่บางครั้งเร็วกว่าในวันทำการ

เปิดบัญชีเทรด

ล็อกอินเข้าสู่ Personal Area แล้วเลือก “My Accounts” จากนั้นกด “Open Account” เลือกประเภทบัญชี, แพลตฟอร์ม (MT4 หรือ MT5), สกุลเงินหลัก (USD, EUR, THB), เลเวอเรจ และตั้งชื่อบัญชี พร้อมรหัสผ่านการเทรด

วิธีฝากเงินและช่องทางที่รองรับในประเทศไทย

เรารองรับช่องทางการฝากที่สะดวกสำหรับคนไทยหลายแบบ เพื่อให้เริ่มเทรดได้ทันที

บัตรธนาคาร

รับ Visa และ Mastercard ฝากเงินได้ทันที ขั้นต่ำ 10 ดอลลาร์ (ประมาณ 350 บาท)

อีวอลเล็ท

• Skrill
• Neteller
• Perfect Money
• WebMoney

คริปโตเคอร์เรนซี

รองรับ Bitcoin, Ethereum, Tether (USDT) และเหรียญหลักอื่นๆ

โอนผ่านธนาคาร

เหมาะสำหรับฝากเงินจำนวนมาก ใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการ

แพลตฟอร์มเทรดที่รองรับและเวลาการเทรดในไทย

เรามีแพลตฟอร์มให้เลือกใช้งานทั้ง MT4 และ MT5 ซึ่งแต่ละอันก็มีข้อดีแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของคุณ

MetaTrader 4 (MT4)

เหมาะสำหรับเทรด Forex เน้นใช้งานง่าย มีเครื่องมือเยอะ รองรับ EA และสคริปต์

MetaTrader 5 (MT5)

เหมาะกับเทรดหลายสินทรัพย์พร้อมกัน มีออเดอร์และกราฟที่ทันสมัยกว่า และความเร็วในการประมวลผลสูงขึ้น

เครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่มีในทุก Account types

ไม่ว่าจะเลือกบัญชีแบบไหน เราก็ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยและการบริหารความเสี่ยงของคุณอย่างเต็มที่

Stop Loss และ Take Profit

คุณสามารถตั้ง Stop Loss และ Take Profit ได้ตั้งแต่เปิดออเดอร์ หรือแก้ไขเพิ่มทีหลังได้ และรับประกันว่าไม่มีการสลิปเพจบนคำสั่งเหล่านี้

การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ

เรารับประกันว่า บัญชีของคุณจะไม่ติดลบแน่นอน ถ้าเกิดตลาดผันผวนเกินคาด เราจะรับผิดชอบส่วนที่เกินไป

การปรับเลเวอเรจ

คุณสามารถปรับเลเวอเรจได้สูงสุดถึง 1:2000 และลดลงได้ตามต้องการผ่าน Personal Area

การบริหารจัดการบัญชีและการใช้งานที่ยืดหยุ่น

เราอยากให้คุณเทรดได้อย่างสะดวกสบาย ดังนั้นจึงอนุญาตให้เปิดได้สูงสุด 200 บัญชีในหนึ่งโปรไฟล์

เหตุผลที่ควรมีหลายบัญชี

• ทดลองกลยุทธ์ต่างๆ โดยไม่กระทบบัญชีหลัก
• บริหารความเสี่ยงแยกตามประเภทการเทรด
• ใช้สกุลเงินหลักต่างกันตามความต้องการ

ค่าธรรมเนียมบัญชีไม่เคลื่อนไหว

ถ้าคุณไม่เทรดเลยเกิน 90 วัน จะมีค่าธรรมเนียม 5 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่แค่เปิดเทรดเล็กน้อยก็จะไม่โดนค่าธรรมเนียมนี้

การอัปเกรดบัญชี

ถ้าต้องการเปลี่ยนจาก Standard ไป Pro คุณต้องเปิดบัญชีใหม่เท่านั้น แต่สามารถโอนเงินระหว่างบัญชีได้ทันทีและไม่มีค่าใช้จ่าย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Account types ของ Exness ในประเทศไทย