เริ่มต้นใช้งาน Trading Platforms กับ Exness ในประเทศไทย

เราจะช่วยให้คุณเข้าใจขั้นตอนการสมัครและใช้งานแพลตฟอร์มเทรดของเราได้อย่างง่ายดายและตรงจุด

ทำไมถึงควรเลือกใช้แพลตฟอร์มของเราในประเทศไทย

จากประสบการณ์ที่เราได้รับจากผู้ใช้ในไทย หลายคนชอบที่เรารองรับทั้งการเทรด Forex และ CFD ทำให้คุณมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเทรดคู่สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หรือดัชนีตลาดหลักทรัพย์ คุณจะพบกับฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ในทุกมุมที่ต้องการ

เรามีบัญชีเทรดหลายแบบให้เลือกตามระดับความชำนาญของคุณ ตั้งแต่ Standard ที่เหมาะกับมือใหม่ จนถึง Raw Spread สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการสเปรดต่ำและค่าคอมมิชชั่นชัดเจน

ประเภทบัญชี ขั้นต่ำฝากเงิน (USD) สเปรด คอมมิชชั่น
Standard 10 ลอยตัว ไม่มี
Pro 200 ต่ำ ไม่มี
Raw Spread 200 ต่ำมาก มี

ส่วนแพลตฟอร์มที่รองรับก็มีทั้ง MT4 และ MT5 สองตัวนี้ได้รับความนิยมสูง และเราก็ให้คุณเลือกใช้ตามความถนัดได้เลย

ขั้นตอนสมัครใช้งานกับแพลตฟอร์มเทรดของเรา

เริ่มต้นง่ายกว่าที่คิดครับ แค่เข้าเว็บของเรา กดสมัคร เลือกประเทศไทยเป็นประเทศที่คุณอาศัยอยู่ จากนั้นใส่อีเมลและรหัสผ่านที่คุณตั้งให้แข็งแรงหน่อย

อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง โดยเฉพาะประเทศ เพราะจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หลังสมัครเสร็จ

เริ่มต้นสร้างบัญชีส่วนตัว

หลังจากสมัครบัญชี Personal Area ของคุณเสร็จแล้ว คุณจะต้องยืนยันตัวตนด้วยเอกสารที่จำเป็น เช่น บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง และหลักฐานที่อยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าการเทรดของคุณปลอดภัยและถูกต้องตามกฎระเบียบ

เอกสาร ข้อกำหนด หมายเหตุ
บัตรประชาชน/หนังสือเดินทาง ไม่หมดอายุและชัดเจน ต้องเห็นทุกมุมของเอกสาร
ใบแจ้งหนี้ค่าสาธารณูปโภคหรือใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร ไม่เกิน 3 เดือน ต้องมีชื่อและที่อยู่ตรงกัน
เอกสารเพิ่มเติม ตามคำขอหากฝากเงินจำนวนมาก เช่น สเตทเม้นท์ธนาคาร

การตั้งค่าบัญชีเทรดที่เหมาะสมกับคุณ

หลังจากผ่านขั้นตอนยืนยันตัวตนแล้ว คุณจะสามารถสร้างบัญชีเทรดได้เองจาก Personal Area เลือกได้ว่าอยากใช้ MT4 หรือ MT5 เลือกสกุลเงินบัญชีเป็น THB, USD หรือ EUR และตั้งเลเวอเรจได้สูงสุดถึง 1:2000

เรื่องเลเวอเรจสำหรับเทรดเดอร์ไทย

เลเวอเรจสูงช่วยให้คุณเปิดตำแหน่งใหญ่ได้แม้มีเงินทุนไม่เยอะ แต่มันก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยเหมือนกัน เราแนะนำให้เริ่มจากระดับต่ำก่อน แล้วค่อยปรับเพิ่มตามความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น

  • เริ่มต้นด้วยเลเวอเรจไม่เกิน 1:100
  • ประเมินการจัดการความเสี่ยงให้ดี
  • ใช้คำสั่ง Stop Loss เพื่อจำกัดการขาดทุน

วิธีฝากเงินและช่องทางที่รองรับในประเทศไทย

การฝากเงินกับเรานั้นรวดเร็วและหลากหลาย คุณสามารถเลือกใช้บัตรเครดิต เดบิต หรือ e-wallet ที่นิยมในไทยได้เลย เช่น Skrill หรือ Neteller

ช่องทางฝากเงิน ขั้นต่ำ เวลาทำรายการ หมายเหตุ
บัตร Visa/Mastercard 10 USD ทันที สะดวกและรวดเร็ว
e-wallet (Skrill, Neteller) 10 USD ทันที นิยมในกลุ่มเทรดเดอร์
โอนผ่านธนาคาร 10 USD 1-3 วันทำการ เหมาะกับยอดสูง
คริปโตเคอร์เรนซี (Bitcoin, USDT) ขึ้นอยู่กับเหรียญ ประมาณ 1 ชั่วโมง ปลอดภัยและรวดเร็ว

และที่สำคัญ เรารองรับสกุลเงินบาท (THB) ด้วยนะ คุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินเวลาฝากหรือถอนเงิน

ทำความรู้จักกับ Personal Area ของคุณ

Personal Area คือศูนย์กลางควบคุมบัญชีของคุณ ที่นี่คุณจะสามารถสร้างบัญชีเทรดใหม่ ฝากถอนเงิน และตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนได้ง่าย ๆ

ฟีเจอร์ที่คุณจะได้ใช้บ่อย

  • ดูภาพรวมบัญชีและประวัติการเทรด
  • สร้างบัญชีเทรดหลายบัญชีได้ในที่เดียว
  • ตั้งค่าระดับเลเวอเรจและสกุลเงิน
  • จัดการคำสั่งฝากและถอนเงิน
  • ตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตน

การมีหลายบัญชีเทรดช่วยให้คุณทดลองกลยุทธ์ใหม่ หรือใช้บัญชีสำหรับการเทรดจริงและบัญชีทดลองแยกกันได้ สะดวกมาก

เข้าใจแพลตฟอร์มเทรดของ Exness

ตอนนี้มาพูดถึงแพลตฟอร์มเทรดที่คุณจะใช้จริงกันบ้าง เรามีทั้ง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ให้เลือกตามความต้องการ

MT4 กับ MT5 ต่างกันยังไง?

MT4 เหมาะกับคนที่ต้องการอินเทอร์เฟซเรียบง่ายและมีตัวช่วยอัตโนมัติ (EA) เยอะ ส่วน MT5 จะให้ฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยกว่า เช่น แผนภูมิขั้นสูง และปฏิทินเศรษฐกิจในตัว

ถ้าคุณเน้นเทรดฟอเร็กซ์ล้วน ๆ MT4 น่าจะตอบโจทย์ แต่ถ้าอยากเทรดสินทรัพย์หลายประเภท MT5 จะทำให้คุณทำงานได้สะดวกขึ้น

ตัวเลือกเทรดบนมือถือ

แอป Exness Trader ช่วยให้คุณเปิดปิดออเดอร์ได้ง่าย ๆ จากมือถือ จัดการพอร์ตและติดตามข่าวสารได้ทันที ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

ฟีเจอร์ MT4 MT5
อินเทอร์เฟซ ง่ายและคลาสสิก ทันสมัยและละเอียด
เครื่องมือวิเคราะห์ พื้นฐาน ขั้นสูงกว่า
EA (Expert Advisor) เยอะและหลากหลาย รองรับมากขึ้น
ปฏิทินเศรษฐกิจ ไม่มี มีในตัว

จัดการความเสี่ยงอย่างไรให้ปลอดภัย

ความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด แต่เรามีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณควบคุมมันได้ดีขึ้น

ฟีเจอร์ควบคุมความเสี่ยงในแพลตฟอร์ม

  • คำสั่ง Stop Loss เพื่อจำกัดขาดทุน
  • คำสั่ง Take Profit สำหรับล็อกรายได้
  • ระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (Negative Balance Protection)
  • แจ้งเตือนเมื่อระดับมาร์จิ้นต่ำ

นอกจากนี้ การจัดขนาดตำแหน่งเทรดก็สำคัญ เราแนะนำให้ใช้สัดส่วนความเสี่ยงตามทุนในบัญชีของคุณ

ยอดเงินในบัญชี (USD) ความเสี่ยงต่อการเทรด (%) ขนาดตำแหน่งสูงสุด
100-500 1-2 ล็อตเล็กมาก
500-2000 2-3 ล็อตเล็กถึงมินิ
มากกว่า 2000 2-5 ล็อตมาตรฐานได้

ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเทรดในประเทศไทย

ประเทศไทยอยู่ในโซนเวลาที่ช่วยให้คุณเข้าถึงเซสชันเทรดยอดนิยมได้หลายช่วงโดยไม่ต้องอดนอน

ช่วงเวลาที่น่าสนใจคือช่วงที่มีการซ้อนทับของตลาด เช่น ช่วงบ่ายถึงค่ำที่ตลาดยุโรปและเอเชียเปิดพร้อมกัน หรือช่วงค่ำถึงเช้าตรู่ที่ตลาดยุโรปและสหรัฐฯ ซ้อนทับกัน

  • เซสชันเอเชีย: 9:00 น. – 18:00 น.
  • เซสชันยุโรป: 14:00 น. – 23:00 น.
  • เซสชันสหรัฐ: 20:00 น. – 5:00 น. (วันถัดไป)

ช่วงเวลาซ้อนทับนี้มักจะมีความผันผวนและโอกาสเทรดที่มากขึ้น

❓ FAQ

ใช้เวลานานแค่ไหนในการสมัครและยืนยันบัญชีกับ Exness?

การสมัครบัญชีส่วนตัวทำได้ในไม่กี่นาที ส่วนการยืนยันเอกสารอาจใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการ ขึ้นกับความชัดเจนของเอกสารที่ส่งเข้ามา

เปลี่ยนสกุลเงินในบัญชีเทรดได้ไหม?

เมื่อเลือกสกุลเงินบัญชีไปแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนได้ หากต้องการใช้สกุลเงินอื่น คุณต้องสร้างบัญชีเทรดใหม่

ต้องใช้เงินขั้นต่ำเท่าไหร่ในการเริ่มเทรด?

ขั้นต่ำฝากเงินคือ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเทียบเท่าในสกุลเงินอื่น ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากทดลองเทรดแบบมีความเสี่ยงต่ำ

Exness ได้รับการควบคุมในประเทศไทยหรือไม่?

เราเป็นบริษัทที่ได้รับการควบคุมในระดับสากล แม้ไม่มีใบอนุญาตเฉพาะในไทย แต่ผู้ใช้งานในประเทศไทยสามารถใช้บริการได้อย่างมั่นใจ

สามารถใช้ VPN ในการสมัครบัญชีได้ไหม?

เราแนะนำให้ใช้ตำแหน่งจริงของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการตรวจสอบและยืนยันตัวตนในภายหลัง

สร้างบัญชีเทรดได้กี่บัญชีในหนึ่ง Personal Area?

คุณสามารถสร้างบัญชีเทรดได้หลายบัญชีภายใต้ Personal Area เดียว เพื่อแยกกลยุทธ์หรือประเภทบัญชีได้ตามต้องการ

ถ้าลืมรหัสผ่านบัญชีเทรดต้องทำอย่างไร?

สามารถรีเซ็ตรหัสผ่านบัญชีเทรดได้จาก Personal Area โดยไม่กระทบกับรหัสผ่านสำหรับเข้า Personal Area

มีค่าธรรมเนียมในการฝากหรือถอนเงินไหม?

เราไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากและถอนเงินผ่านช่องทางส่วนใหญ่ แต่บางช่องทางอาจมีค่าธรรมเนียมจากธนาคารหรือผู้ให้บริการ